ทำความรู้จัก นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ (Bladder Stones) คืออะไร

นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ คืออะไร?
นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ (Bladder Stones) เกิดขึ้นเมื่อแร่ธาตุหรือสารอื่นๆ ในปัสสาวะตกผลึกและจับตัวเป็นก้อน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวด รบกวนการปัสสาวะ หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ การปัสสาวะไม่หมด หรือมีภาวะอื่นๆ ที่ส่งผลให้ปัสสาวะไม่สามารถออกไปจากกระเพาะปัสสาวะได้หมด
สาเหตุที่ทำให้เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
นิ่วในกระเพาะปัสสาวะเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น:
การขับปัสสาวะไม่สมบูรณ์ เมื่อปัสสาวะไม่สามารถถูกขับออกจากกระเพาะปัสสาวะได้หมด หรือมีการติดขัดในระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น การขยายของต่อมลูกหมากในผู้ชาย หรือการอุดตันในท่อปัสสาวะ ภาวะปัสสาวะเหลือค้าง หรือโรคทางระบบประสาทที่ส่งผลต่อการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะอาจทำให้เกิดการตกผลึกของสารที่กลายเป็นนิ่ว
ภาวะที่ทำให้ปัสสาวะข้น การดื่มน้ำไม่เพียงพอทำให้ปัสสาวะมีความเข้มข้นสูง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมการเกิดนิ่ว
โรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน, โรคเกาต์, หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับการผลิตกรดยูริกที่สูงในร่างกาย
ภาวะทางพันธุกรรม บางกรณีอาจเกิดจากสาเหตุทางพันธุกรรมที่ทำให้เกิดนิ่วได้ง่ายกว่าปกติ
ภาวะทุพโภชนาการขาดโปรตีน พบได้ในเด็กที่ขาดโปรตีน หรือไม่ได้รับนมมารดาที่เพียงพอ เช่น การเลี้ยงทารกและเด็กเล็กด้วยข้าว และกล้วยเป็นหลัก
ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ปกติ
ผู้ป่วยที่ใส่สายสวนปัสสาวะเป็นเวลานาน
นิ่วที่เลื่อนตัวหลุดลงมาจากไตและท่อไต
อาการของนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
การเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะอาจทำให้รู้สึกอาการมีอาการเหล่านี้ เช่น
- อาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น มีไข้หรือหนาวสั่น
การรักษานิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
การรักษานิ่วในกระเพาะปัสสาวะขึ้นอยู่กับขนาดของนิ่ว ลักษณะของอาการ และสาเหตุที่ทำให้เกิดนิ่ว
1. การรักษาด้วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
- การดื่มน้ำ การดื่มน้ำมากๆ สามารถช่วยลดความเข้มข้นของปัสสาวะ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดนิ่ว
- การปรับเปลี่ยนอาหาร การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีแคลเซียมสูงหรือลดการบริโภคเกลือสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่ว
2. การรักษาด้วยยา
- ยาแก้ปวด หากผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวด สามารถใช้ยาแก้ปวดที่ไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงมาก
- ยาปฏิชีวนะ หากมีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะร่วมด้วย ยาปฏิชีวนะจะถูกใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อ
3.การรักษาด้วยการผ่าตัด
- การผ่าตัดผ่านกล้อง (Cystolitholapaxy) ใช้กล้องที่ใส่ผ่านท่อปัสสาวะเพื่อลดขนาดของนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ โดยการบดหรือสลายนิ่วให้เป็นชิ้นเล็กๆ หรือใช้เลเซอร์สลายนิ่วโดยตรง
- การผ่าตัดเปิดกระเพาะปัสสาวะ (Open Surgery) ใช้ในกรณีที่นิ่วมีขนาดใหญ่หรือมีภาวะแทรกซ้อนที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่น
- การรักษาด้วยการฟื้นฟูการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ การรักษาภาวะที่ทำให้เกิดนิ่ว เช่น การรักษาโรคเบาหวาน โรคอ้วน หรือการแก้ไขการขับถ่ายที่ผิดปกติสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วซ้ำ
วิธีป้องกันการเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
การป้องกันไม่ให้เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะสามารถปฏิบัติได้โดยเบื้องต้น เช่น
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
- ป้องกันการอุดตันในระบบทางเดินปัสสาวะ
- ดูแลสุขภาพโดยรวม เช่น ควบคุมโรคประจำตัวและทำตามคำแนะนำของแพทย์
การรักษานิ่วในกระเพาะปัสสาวะสามารถทำได้หลายวิธี ตั้งแต่การปรับพฤติกรรม การใช้ยา จนถึงการรักษาด้วยการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับลักษณะของนิ่วและอาการที่แสดงออก การป้องกันและการดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงจากการเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งการรู้จักอาการและการรักษาเบื้องต้นสามารถช่วยให้มีความเข้าใจและทำให้เราสามารถสังเกตอาการของตนเองได้ จนนำไปสู่การ ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
สนับสนุนข้อมูลโดย : พญ. มัชฌิมา ฮวบกอง แพทย์เฉพาะทางศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา (Urology)
ศูนย์การแพทย์ : ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป ชั้น 1 โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1745 ต่อ ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป