ตรวจหาความผิดปกติโรคทางสมอง ด้วย MRI
การตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging) หรือที่เรียกว่า MRI เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ที่วินิจฉัยภาวะผิดปกติในศีรษะ ว่าส่วนไหนเป็นจุดเสียหายที่ทำให้เกิดโรค ไม่ว่าจะเป็น เนื้อสมอง เส้นเลือดแดง หรือดำ สามารถค้นพบเนื้องอก มะเร็ง การโป่งพอง เลือดออกของสมองได้อย่างพร้อมกัน ซึ่งการตรวจ MRI นั้นเป็นการตรวจที่ใช้คลื่นวิทยุร่วมกับคลื่นสนามแม่เหล็ก สร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้าโดยไม่ต้องใช้รังสีเอกซเรย์ในการทำให้เกิดสัญญาณการสร้างภาพตามระนาบได้ทั้งแนวขวาง แนวยาวและแนวเฉียง แบบ 3 มิติ ภาพถ่ายที่ได้จึงมีความคมชัดสูง มีความใกล้เคียงกับอวัยวะจริงมากที่สุด แพทย์จึงเห็นสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ชัดเจน และมีความแม่นยำสูงสามารถตรวจได้ทุกวัย แต่ในปัจจุบัน ยังไม่มีรายงานความอันตรายจากการตรวจ MRI ต่อทารกในครรภ์ อย่างไรก็ตามหากไม่มีความจำเป็น ควรหลีกเลี่ยงการตรวจ MRI โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์
เมื่อมีอาการเหล่านี้ควรมารับการตรวจสมอง ด้วยวิธี MRI BRAIN (ตรวจเนื้อสมอง)
- แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก ปวดศีรษะรุนแรง
- ความจำเสื่อม พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง มีความสับสนมากขึ้น
- มีอาการชักหรือหมดสติบ่อย
- มีอาการวิงเวียนศีรษะคล้ายบ้านหมุน เสียการทรงตัว มองเห็นภาพซ้อน
- มีอาการปากเบี้ยว ลิ้นแข็ง พูดติดขัด
- อาการอื่นๆ ตามที่แพทย์เห็นสมควร
การเตรียมตัวก่อนการตรวจด้วยเครื่อง MRI
- กรณีผู้ป่วยที่สามารถให้ความร่วมมือ ไม่ต้องงดน้ำและอาหารก่อนตรวจ
- กรณีผู้ป่วยที่ไม่สามารถให้ความร่วมมือได้ ต้องได้รับยานอนหลับ หรือยาสลบ ตามดุลยพินิจของแพทย์ และต้องงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 4 - 6 ชั่วโมง ก่อนตรวจ
- ควรงดใช้เครื่องสำอางบางชนิดก่อนตรวจ เพราะอาจมีส่วนผสมของโลหะ ทำให้เกิดเป็นสิ่งแปลกปลอมในภาพได้
- ควรถอดฟันปลอม เครื่องประดับโลหะทุกชนิด
- ผู้ป่วยติดเครื่องกระตุ้นหัวใจหรือเครื่องมือที่ฝังอยู่ในร่างกาย หรือใส่เหล็กจัดฟัน ต้องผ่านดุลพินิจจากแพทย์ก่อน
- ผู้ที่ต่อผมปลอม ควรแจ้งแพทย์ก่อน เนื่องจากอาจมีสารบางชนิดที่รบกวนการแสดงผลการตรวจได้
- ผู้ที่ตั้งครรภ์ควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับการตรวจ MRI
MRI สมองใช้เวลาเท่าไหร่
ใช้เวลาประมาณ 30 - 90 นาที ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
- เจ้าหน้าที่จะให้ผู้เข้ารับบริการนอนลงบนเครื่อง จัดท่าทางให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
- บางรายอาจได้รับยานอนหลับ ตามดุลยพินิจของแพทย์
- สวมอุปกรณ์ป้องกันเสียง และถือลูกบีบมือยางฉุกเฉิน
- นำเครื่องจับสัญญาณ (Magnetic Coil) มาครอบที่ศีรษะ เคลื่อนเข้าไปในตัวเครื่องคล้ายอุโมงค์ อยู่ในความสงบนิ่ง สบายๆ
- ระหว่างการตรวจผู้ป่วยต้องไม่ขยับ หรือเคลื่อนไหวส่วนที่ตรวจเพื่อจะได้ภาพชัดเจน
- รอรับฟังผลตรวจตามนัดหมายของแพทย์
การตรวจ MRI สมองสามารถตรวจหาอะไรได้บ้าง
- ตรวจหาโรคหลอดเลือดสมอง
- ตรวจหาสาเหตุการชัก
- เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
- โรคปลอกประสาทอักเสบ
- โรคสมองขาดเลือด
- เนื้องอกสมอง
MRI สมอง อันตรายไหม
เป็นเครื่องที่ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าร่วมกับคลื่นวิทยุพลังงานสูง เกิดการสะท้อนกลับมาที่ตัวรับสัญญาณ ถูกแปลงเป็นภาพ 3 มิติ ไม่มีรังสีใดๆ ผลข้างเคียงมักจะเกิดการเสียวฟัน สำหรับผู้ที่เพิ่งอุดฟันมา และผู้ที่มีรอยสักบนร่างกาย อาจได้รับการระคายเคืองผิวหนังเล็กน้อย ส่วนผู้ที่สวมคอนแทคเลนส์ที่มีโลหะเป็นส่วนประกอบ มีความเสี่ยงได้รับผลกระทบต่อกระจกตาได้
ตรวจสมองด้วยเครื่อง MRI ต่างกับการตรวจด้วยวิธี CT Scan อย่างไร
MRI มีความปลอดภัยมากกว่า เพราะการตรวจ CT Scan จะใช้วิธีการปล่อยลำแสง X-Ray ผ่านลำตัวผู้รับการตรวจเพื่อให้เกิดเงาภาพบนฉาก ใช้สารทึบแสงมักจะเป็นชนิดที่มีส่วนประกอบของไอโอดีน เหมาะแก่การตรวจวินิจฉัยโรคกระดูกมากกว่า ใช้เวลา 10-15 นาที อาจทำให้เกิดความผิดปกติของผิวหนัง และไตในระยะยาวได้
ความแตกต่างระหว่าง | การตรวจวินิจฉัย | ข้อจำกัด |
CT Scan |
วินิจฉัยโรคเกี่ยวกับกระดูก ปอด การบาดเจ็บของอวัยวะภายใน เนื้องอก ใช้เวลาในการตรวจประมาณ 10 – 15 นาที จำเป็นต้องฉีดสารทึบรังสี เพื่อเพิ่มความชัดเจนของภาพ เช่น ในกรณีที่ต้องดูเนื้องอกหรือเส้นเลือด | สามารถตรวจผู้ป่วยที่เคยผ่าตัดติดตั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือโลหะ ภายในร่างกายได้ |
MRI |
วินิจฉัยตรวจเนื้อเยื่ออ่อน กล้ามเนื้อ หลอดเลือด สมอง เส้นประสาทไขสันหลัง ใช้เวลาในการตรวจประมาณ 30-90 นาทีขึ้นไป ไม่จำเป็นต้องฉีดสารทึบรังสีในการตรวจ ใช้ในบางกรณีเท่านั้น | ไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่เคยผ่าตัดติดตั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือโลหะภายในร่างกายบางชนิด |
สนับสนุนข้อมูลโดย: นพ. ธีรเดช เทพเกษตรกุล แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบประสาทและสมอง
ศูนย์การแพทย์ : ศูนย์ระบบประสาทและสมอง โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 1745 ต่อ ศูนย์ระบบประสาทและสมอง