Bangpakok Hospital
  • A
  • A
  • A
BPK Hotline

รู้จัก 5 โรคยอดฮิตที่ควรระวังพบบ่อยในผู้หญิง

20 มิ.ย. 2568


     สุขภาพของผู้หญิงนั้นมีความละเอียดอ่อนและซับซ้อน โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ ร่างกายต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งจากฮอร์โมน วัย และปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์และสุขภาพโดยรวม หลายครั้งอาการผิดปกติเล็กน้อย เช่น ปวดประจำเดือนมากกว่าปกติ ประจำเดือนขาด หรือมีตกขาวผิดปกติ อาจถูกมองข้ามว่าเป็นเรื่องที่เล็กน้อย ทั้งที่จริงแล้วอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคภายในที่สำคัญ การรู้จักและเข้าใจโรคภายในผู้หญิงจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะยิ่งรู้เร็ว รักษาไว โอกาสกลับมามีสุขภาพดีจะยิ่งสูงขึ้น 

5 โรคยอดฮิตที่ควรระวังพบบ่อยในผู้หญิง

     1. มะเร็งเต้านม (Breast Cancer)   มะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งอันดับหนึ่งที่พบในเพศหญิง เป็นมะเร็งที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ในเต้านม โดยเฉพาะเซลล์ท่อน้ำนม โดยเซลล์จะเริ่มแบ่งตัวผิดปกติแล้วลุกลามไปยังเนื้อเยื่อข้างเคียง จากนั้นหากปล่อยไว้ อาจแพร่กระจายไปยังเซลล์อื่นๆ ในร่างกายได้ ผ่านทางเดินน้ำเหลือง หากตรวจพบในระยะเริ่มต้นจะเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการรักษา การตรวจคัดกรองเป็นประจำทุกปีจะช่วยให้สามารถตรวจพบความผิดปกติได้

     อาการ

- คลำเจอก้อนแข็งในเต้านมหรือใต้รักแร้
- เต้านมบวม แดง ผิวหนังมีลักษณะคล้ายเปลือกส้ม
- หัวนมบอดหรือมีของเหลวไหลออกมา
- รูปร่างเต้านมเปลี่ยนไปจากปกติ

     วิธีป้องกัน
     ควรตรวจเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำทุกเดือน รับการตรวจแมมโมแกรมตามคำแนะนำของแพทย์ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ออกกำลังกาย

     การรักษา

     การรักษามักเริ่มจากการผ่าตัดเอาก้อนเนื้อหรือทั้งเต้านมออก ขึ้นอยู่กับระยะของโรค จากนั้นอาจตามด้วยการฉายแสง เคมีบำบัด หรือการให้ยาฮอร์โมน เพื่อป้องกันการกลับมาใหม่ของเซลล์มะเร็ง หากตรวจพบในระยะแรก โอกาสรักษาหายจะสูงมาก

 

     2. โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ คือภาวะที่เยื่อบุโพรงมดลูกซึ่งปกติควรอยู่เฉพาะในมดลูก กลับไปเจริญเติบโตอยู่นอกมดลูก เช่น ที่รังไข่ หรือช็อกโกแลตซีสต์ ลำไส้ หรือผนังอุ้งเชิงกราน ทำให้เกิดการอักเสบ ปวดเรื้อรัง และอาจมีบุตรยากได้

     อาการ

- ปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง
- ปวดท้องน้อยเป็นประจำ
- เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
- มีปัญหาในการตั้งครรภ์

     วิธีป้องกัน
     แม้ยังไม่มีวิธีป้องกันที่แน่ชัด แต่การตรวจสุขภาพประจำปีและใส่ใจต่อสัญญาณผิดปกติในร่างกายสามารถช่วยให้ตรวจพบโรคได้เร็วขึ้น

     วิธีการรักษา

     การรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ โดยในระยะแรกอาจใช้ยาแก้ปวดร่วมกับฮอร์โมนเพื่อลดการทำงานของเยื่อบุที่ผิดที่ หากยังไม่ดีขึ้นหรือมีภาวะมีบุตรยากร่วมด้วย อาจต้องผ่าตัดเพื่อนำเยื่อบุที่เจริญผิดที่ออก และในบางกรณีที่มีอาการรุนแรงมากอาจต้องพิจารณาตัดรังไข่หรือมดลูกร่วมด้วย

 

     3. ถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS – Polycystic Ovary Syndrome) PCOS เป็นความผิดปกติทางฮอร์โมนที่พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ มีลักษณะเด่นคือ มีถุงน้ำขนาดเล็กจำนวนมากในรังไข่ ซึ่งรบกวนกระบวนการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอและมีบุตรยาก

     อาการ

- ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- สิวขึ้นหนัก ขนดก
- น้ำหนักขึ้นง่าย ดื้อต่ออินซูลิน
- มีปัญหามีบุตรยาก

     วิธีป้องกัน

     การควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม รับประทานอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และลดความเครียดสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคนี้ได้

     การรักษา

     การรักษา PCOS มักเริ่มจากการปรับพฤติกรรม เช่น ควบคุมน้ำหนักและออกกำลังกาย หากยังไม่ดีขึ้น แพทย์อาจให้ยาคุมกำเนิดเพื่อปรับสมดุลฮอร์โมน หรือใช้ยาเพิ่มการตกไข่สำหรับผู้ที่ต้องการมีบุตร ในบางรายอาจใช้ยาลดระดับน้ำตาลในเลือด เช่น เมทฟอร์มิน เพื่อช่วยควบคุมภาวะดื้อต่ออินซูลินที่พบร่วมด้วย

 

     4. มะเร็งปากมดลูก (Cervical Cancer) มะเร็งปากมดลูกเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเซลล์บริเวณปากมดลูก อันเนื่องมาจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง การพัฒนาของเซลล์ผิดปกตินี้เกิดขึ้นอย่างช้าๆ และสามารถตรวจพบล่วงหน้าได้ หากได้รับการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ

     อาการ

- มีเลือดออกผิดปกติ เช่น ระหว่างรอบเดือนหรือหลังมีเพศสัมพันธ์
- ตกขาวมีกลิ่นแรง สีผิดปกติ
- เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือปวดท้องน้อยเรื้อรัง

     วิธีป้องกัน

     การฉีดวัคซีน HPV ตั้งแต่อายุยังน้อย และการตรวจคัดกรองด้วย Pap smear หรือ HPV DNA test เป็นประจำทุกปี เป็นวิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพ

     การรักษา

     ในระยะแรกอาจรักษาด้วยการจี้เย็นหรือการผ่าตัดเฉพาะจุด หากลุกลามมากขึ้นจะใช้วิธีการผ่าตัดใหญ่ร่วมกับการฉายแสงหรือให้เคมีบำบัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะของโรคและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง

 

     5. เนื้องอกมดลูก (Myoma Uteri) เนื้องอกมดลูก เป็นก้อนเนื้อที่ไม่ใช่มะเร็ง เกิดขึ้นในกล้ามเนื้อมดลูก อาจมีขนาดตั้งแต่เล็กจนถึงใหญ่มาก  พบได้บ่อยในผู้หญิงวัย 30-50 ปี ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ แต่ในบางรายอาจส่งผลต่อการมีประจำเดือนหรือการตั้งครรภ์

     อาการ

- ประจำเดือนมามากผิดปกติ
- ปวดท้องน้อยเรื้อรัง
- ปัสสาวะบ่อยหรือท้องผูก
- มีบุตรยากในบางราย

     วิธีป้องกัน
     ยังไม่มีวิธีป้องกันโดยตรง แต่การตรวจอัลตราซาวด์เป็นประจำจะช่วยให้พบได้เร็ว

     การรักษา

     หากก้อนมีขนาดเล็กและไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต แพทย์อาจแนะนำให้เฝ้าระวัง แต่หากมีอาการรุนแรงจะรักษาด้วยยาฮอร์โมนเพื่อลดขนาดก้อน หรือในบางรายอาจต้องผ่าตัดเอาเนื้องอกออก

     
     โรคของผู้หญิงอาจเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ ที่ดูไม่น่ากังวล แต่หากนิ่งนอนใจปล่อยไว้อาจลุกลามจนกระทบต่อคุณภาพชีวิต และการมีบุตรในอนาคต การหมั่นสังเกตร่างกายของตนเอง หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง และเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี ถือเป็นกุญแจสำคัญในการดูแลสุขภาพของผู้หญิงอย่างยั่งยืน อย่าลืมว่า “การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา” เพราะสุขภาพที่ดีคือสิ่งสำคัญกับผู้หญิงทุกๆคน

 

สนับสนุนข้อมูลโดย  :  นพ. วิศรุฒณ์ เชิดชูไทย แพทย์เฉพาะทางด้านการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช ,สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
ศูนย์การแพทย์
     :  ศูนย์สตรี ชั้น 8 โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 1745 ต่อ ศูนย์สตรี
Go to top
Copyright © 2019 Bangpakok Hospital All rights reserved.