เนื้องอกมดลูก มีผลกับการมีบุตร หรือไม่ ?
เนื้องอกมดลูกกับการมีบุตร
เนื้องอกมดลูก (Myoma or Fibroids) พบได้ 30-70% ในสตรีวัยวัยเจริญพันธุ์ เป็นเนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็ง บางคนมีก้อนแต่ไม่มีอาการ แต่ทั้งนี้ทำให้เกิดอาการผิดปกติได้ เช่น
- ปวดท้องประจำเดือน
- เลือดประจำเดือนออกมาก ออกนาน ออกไม่เป็นรอบ
- ภาวะมีบุตรยาก
เนื้องอกมดลูก แบ่งเป็น 3 ชนิดใหญ่ๆ ด้วยกันคือ
- เนื้องอกที่โตยื่นออกไปจากตัวมดลูก (Subserous myoma)
- เนื้องอกที่โตในกล้ามเนื้อมดลูก (Intramural myoma)
- เนื้องอกที่โตในโพรงมดลูก (Submucous myoma)
เนื้องอกมดลูกสัมพันธ์กับการมีบุตรยากอย่างไร
พบในสตรีที่มีบุตรยาก ประมาณ 5 - 10% กลไกที่ทำให้มีบุตรยาก คือ
- ตัวก้อนกดเบียดทำให้อสุจิเคลื่อนเข้าสู่โพรงมดลูกได้ลำบาก
- ตัวก้อนกดเบียดบริเวณท่อนำไข่ ทำให้มีผลต่อการปฏิสนธิของเซลล์ไข่และอสุจิ รวมทั้งการเคลื่อนที่ของตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูก
- เนื้องอกขัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อนบริเวณในโพรงมดลูก
- เนื้องอกที่มดลูกทำให้เกิดการเปลื่ยนแปลงของแส้นเลือดที่ไปเลี้ยงมดลูก มีผลต่อการฝังตัวและการเจริญเติบโตของตัวอ่อน
วิธีการรักษาเป็นอย่างไร
นอกจากเนื้องอกที่มดลูกแล้วในผู้ป่วยที่มีบุตรยากจำเป็นต้องค้นหาสาเหตุอื่นๆที่ทำให้มีบุตรยากด้วยเสมอ เพื่อที่จะได้รักษาควบคู่กันไป ทั้งนี้การรักษาเนื้องอกที่มดลูกมีตั้งแต่การผ่าตัดใหญ่เพื่อนำเนื้องอกที่มดลูกออก การส่องกล้องในโพรงมดลูก (Hysteroscope) เพื่อผ่าตัดเนื้องอกชนิดที่อยู่ในโพรงมดลูกซึ่งเป็นการผ่าตัดเล็ก รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ (Assisted Reproductive Technologies หรือ ART) ในการรักษาเพื่อหลีกเลี่ยงการผ่าตัดใหญ่ในกรณีที่แพทย์ลงความเห็นว่าการผ่าตัดอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่มากกว่า และไม่ได้เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์
สนับสนุนข้อมูลโดย : นายแพทย์ธนิก โชคจิรวัฒน์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูติศาสตร์นรีเวชกรรมเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 1745