ลูกพูดช้า แก้ได้
คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองทุกท่านคงเคยสงสัยใช่ไหมคะว่า ลูกเราพูดช้าหรือไม่ ?
บางบ้านอาจเคยเปรียบเทียบดูกับพี่น้อง ลูกเพื่อน แล้วเกิดความสงสัย ว่าทำไมลูกเราพูดได้น้อยกว่า หรือยังไม่พูดเลยแต่พัฒนาการทางภาษาในเด็กแต่ละคนไม่เท่ากัน เด็กแต่ละคนมีความช้าเร็วในพัฒนาการแต่ละด้านไม่เท่ากัน บางคนเดินเร็ว บางคนพูดเร็ว ดังนั้นหมอแนะนำให้ดูจากตารางด้านล่างนี้
พฤติกรรมพัฒนาการที่บ่งชี้ว่าเด็กอาจมีพัฒนาการทางภาษาล่าช้าที่ควรได้รับการประเมินสาเหตุ
อายุ | การพูด | ความเข้าใจภาษา |
12 เดือน | - ไม่เรียกชื่อคนเลี้ยงดู เช่น พ่อ แม่ ยาย | - ไม่ชี้บอกความต้องการ ไม่ใช้ภาษาท่าทาง เช่น ส่ายหน้าเพื่อปฏิเสธ โบกมือบ๊ายบาย |
15 เดือน |
- ไม่พูดคำพยางค์เดียวที่มีความหมายอย่างน้อย 1 คำ เช่น หม่ำๆ (เวลารับประทาน), ไม่ (เวลาปฏิเสธ), ไป(อยากไปเที่ยว) |
- ไม่มองหรือไม่ชี้วัตถุ 5-10 อย่างตามคำบอก |
18 เดือน |
- ไม่พูดคำพยางค์เดียวที่มีความหมายอย่างน้อย 3 คำ |
- ไม่ทำตามคำสั่งที่เด็กคุ้นเคยโดยไม่ใช้ท่าทางประกอบ เช่น ใส่รองเท้า (เราไม่ต้องช่วยชี้ไปที่รองเท้าแล้ว) - ไม่ชี้ชวนให้ผู้อื่นมีความสนใจร่วมกับตนเอง |
2 ปี | - ไม่พูด 2 คำต่อเนื่องกัน เช่น ไปเที่ยว แม่อุ้ม (ไม่นับคำซ้ำๆ เช่น บ๊ายบาย หม่ำๆ) | - ไม่ชี้อวัยวะตามคำบอก |
3 ปี | - ไม่พูดเป็นประโยคที่สมบูรณ์ คือ มีประธาน + กริยา + กรรม เช่น แม่ไปเที่ยว, พ่ออุ้มน้อง |
- ไม่สามารถทำตามคำสั่ง 2 ขั้นตอน เช่น เราสั่งว่า “ ไปใส่รองเท้า (1) แล้วมานั่งเก้าอี้ (2) ” เด็กสามารถทำได้โดยเราสั่งรวม 2 คำสั่งในประโยคเดียว - ไม่เข้าใจบุพบท เช่น บน ใต้ หน้า หลัง |
4 ปี | - เล่าเรื่องสั้นๆ ไม่ได้ |
ดัดแปลงจาก พัฏ โรจน์มหามงคล , หนังสือพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก เล่มที่ 4
เมื่อเราเริ่มสงสัยว่าลูกอาจพูดช้า แนะนำให้กระตุ้นการพูดกับเด็กได้เลย เริ่มจากที่บ้าน เพราะเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ถือเป็นวัยที่สมองยังเติบโตได้อีก ถือเป็นช่วงเวลาทอง เน้นกระตุ้นเร็ว ยิ่งเร็วเท่าไร ลูกเรายิ่งได้ประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น
มาเข้าใจ “ หลักการการกระตุ้นการพูดในเด็ก ” กันก่อน
- สิ่งที่เราอยากให้เด็กๆพูดได้ คือ คำที่อยู่ในชีวิตประจำวัน ได้ใช้สื่อสารจริง + พูดได้ตรงกับสถานการณ์ + มีการมองหน้าสบตาสื่อสารกับผู้พูด เช่น หิวน้ำ พูด “น้ำ” , หิวข้าวพูด “หม่ำๆ”
- หลักการที่สำคัญ คือ “ ห้ามบังคับ ” แต่ใช้การพูดกับลูกเยอะๆ เด็กจะจำคำศัพท์ไว้ในสมอง เมื่อเด็กพร้อมจะพูดออกมาเอง + ชมเชยเมื่อเด็กพยายามสื่อสารหรือออกเสียงตาม
- เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี การพูดสามารถเรียนรู้ได้จาก “คน ” จริงๆเท่านั้น โดยสอนผ่านการเล่นและชีวิตประจำวัน ** ไม่สามารถเรียนรู้จากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ** เด็กที่ดูสื่อ คุณพ่อคุณแม่อาจจะดีใจที่เด็กพูดได้ บางคนอาจพูดเป็นภาษาอังกฤษตามที่ดูมาด้วย แต่!! ถ้าสังเกตดูดีๆ ลูกจะพูดไม่ตรงกับสถานการณ์นะคะ เช่น เห็นหน้าหมอพูดว่า apple ซึ่งเราไม่ต้องการการพูดในลักษณะนั้น หรือบางคนอาจมาเป็นภาษาต่างดาวเลยก็พบบ่อย เพราะเด็กฟังคำศัพท์ตามในสื่อไม่ทัน
- สอนตอนเด็กอารมณ์ดีเท่านั้น ร้องไห้ หงุดหงิด งอแงอยู่ไม่ต้องสอน เด็กๆจะเรียนรู้ได้ดีเวลาอารมณ์ดี
เข้าใจหลักการแล้ว เรามาเริ่มกระตุ้นกันเลย โดยเราสอนผ่านการเล่นและกิจวัตรประจำวัน ดังนี้
- เล่นกับเด็กให้บอกเด็กด้วยว่าสิ่งนี้คืออะไร เช่น ของเล่น นม โดยเอาของมาไว้ใกล้ๆปาก พูดช้าๆชัดๆ
- พากย์กิริยาต่างๆที่เรากำลังทำหรือเล่นอยู่กับเด็ก เช่น อ้า “ปาก” กินข้าว (ชี้ปากไปด้วย), “เปิด” ประตู (ทำท่าเปิด)
- ถ้าคำสั่งไหน เราพูดกับเด็กแล้วเด็กไม่เข้าใจ ให้จับมือเด็กทำพร้อมบอกเด็กไปด้วย
- ถ้าเด็กต้องการของบางอย่างและกำลังอารมณ์ดี อาจกระตุ้นให้เด็กลองสื่อสารหรือบอกเด็กก่อนยื่นของให้ แต่ถ้าอารมณ์ไม่ดี ร้องไห้ ไม่ต้องสอนให้ของได้เลย
- อ่านนิทานทุกวัน
ลองเริ่มกันดู !!!
แต่อย่างไรก็ตามสาเหตุการพูดช้าของลูกมีหลายสาเหตุ ถ้าคุณพ่อคุณแม่ลองกระตุ้นแล้วยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้ไปพบแพทย์ เพื่อประเมินสาเหตุอื่นๆ เช่น ภาวะออทิสติก หูไม่ได้ยิน พัฒนาการล่าช้าหลายด้านด้วย
สนับสนุนข้อมูลโดย : พ.ญ.มุทิตา ช่างภิญโญ กุมารแพทย์พัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก
ศูนย์การแพทย์ : ศูนย์พัฒนาการเด็ก ชั้น 2 โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 1745 ต่อ ศูนย์พัฒนาการเด็ก