Bangpakok Hospital
  • A
  • A
  • A
BPK Hotline

ไข้หวัดใหญ่ เป็นง่าย...ป้องกันได้

17 ก.ย. 2566


   โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ระบาดได้ทั้งปีและพบมากในฤดูฝน เชื้อไวรัสจะอยู่ใน เสมหะ น้ำมูก และน้ำลายผู้ป่วย ติดต่อง่าย สามารถแพร่เชื้อได้โดยการไอ จาม หรือการรับประทานอาหารร่วมกัน สามารถติดได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก และอาจจะมีอาการรุนแรงในผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำได้ โดยอัตราการเสียชีวิตมักเกิดกับผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 65 ปี หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่นโรคหัวใจ โรคปอด โรคไต เป็นต้น การฉีดวัคซีนเป็นวิธีป้องกันที่ได้ผลมากที่สุด สามารถลดอัตราการติดเชื้อ ลดอัตราการนอนโรงพยาบาล และลดโรคแทรกซ้อน

ไข้หวัดทั่วไปต่างจากไข้หวัดใหญ่อย่างไร

  ไข้หวัดทั่วไป เป็นการติดเชื้อไวรัส ทำให้เกิดอาการน้ำมูกไหล มีไข้ต่ำ ส่วนไข้หวัดใหญ่เป็นการติดเชื้อที่เรียกว่า Influenza virus เป็นการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงกว่าไข้หวัด ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย และอาจมีภาวะปอดอักเสบได้

อาการของโรค

  • ไข้สูง ระยะฟักตัว 1 - 4 วัน โดยเฉลี่ย 2 วัน
  • เจ็บคอ มีน้ำมูก ไอ เสมหะ
  • อ่อนเพลีย
  • เบื่ออาหาร คลื่นไส้
  • ปวดศีรษะ
  • ปวดตามแขน ขา ปวดข้อ ปวดรอบตา ปวดเมื่อยตามตัว
  • อาเจียน หรือท้องเสีย
  • อาการมักเป็นมากในช่วง 2 – 4 วันแรก หลังจากนั้นมักดีขึ้น และโดยทั่วไปจะหายใน 1 สัปดาห์

สำหรับรายที่อาการรุนแรง มักเกิดในผู้ป่วยปัจจัยเสี่ยง ซึ่งจะเกิดโรคแทรกซ้อนที่ระบบอื่นๆ ด้วยเช่น

  • พบอาการอักเสบของเยื่อหุ้มหัวใจ ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บหน้าอก เหนื่อย หอบ หรือมีอาการหัวใจวาย
  • ระบบประสาท พบเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ผู้ป่วยจะปวดศีรษะมาก และซึมลง
  • ระบบหายใจ มีหลอดลมอักเสบและปอดบวม ผู้ป่วยจะแน่นหน้าอก และเหนื่อย

ใครบ้างเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่

  • หญิงมีครรภ์อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
  • เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี
  • ผู้มีโรคประจำตัว ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หัวใจ หอบหืด ไตวาย หลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน
  • ผู้สูงวัยที่อายุ 65 ปีขึ้นไป
  • ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
  • โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมผู้ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ที่มีอาการ
  • โรคอ้วน หรือผู้ที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 100 กิโลกรัม หรือดัชนีมวลกายตั้งแต่ 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร

แต่อย่างไรก็ตาม บุคคลทั่วไปก็สามารถเข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปีได้ โดยวัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถฉีดได้ตั้งแต่เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไปจนถึงผู้ใหญ่

การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ดีอย่างไร

  • กระตุ้นและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  • ลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อน
  • ลดอัตราการเสียชีวิต
  • ลดค่าใช้จ่ายในการรักษา นอนโรงพยาบาล
  • ปกป้องผู้ป่วยโรคเรื้อรังจากความเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อ

วิธีป้องกันกันไข้หวัดใหญ่ เช่น

  1. ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล
  2. หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วย
  3. ควรหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด หากเลี่ยงไม่ได้ ต้องใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน
  4. ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อน ผ้าเช็ดมือ เป็นต้น
  5. ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี เนื่องจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ทุกปี

การรักษาไข้หวัดใหญ่

  • หากยังมีอาการไม่มาก เช่น ไข้ต่ำ และยังพอรับประทานอาหารได้ ให้รับประทานยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ พาราเซตามอล ยาละลายเสมหะ เป็นต้น และเช็ดตัวลดไข้เป็นระยะด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำอุณภูมิปกติ
  • ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงควรรีบไปโรงพยาบาล โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ที่มีโรคประจำตัว แพทย์จะพิจารณาให้ยาต้านไวรัส (ชนิดกิน) ซึ่งควรได้รับยาภายใน 48 ชม. หลังเริ่มป่วยซึ่งจะได้ผลการรักษาที่ดีกว่าได้ยาหลัง 48 ชม. ไปแล้ว

   แม้ไข้หวัดใหญ่จะมีอาการรุนแรง และเป็นอันตรายส่งผลต่อชีวิตได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ เด็ก สตรีมีครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัว แต่ไข้หวัดใหญ่ก็ไม่ใช่โรคที่น่ากลัวอีกต่อไป ถ้าเรารู้เท่าทันและป้องกันตัวเอง ซึ่งการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และฉีดสม่ำเสมอทุกปี จะช่วยลดความเสี่ยงและความรุนแรงของโรคได้

สนับสนุนข้อมูลโดย : พญ. วีนิตา พิพิธประพัฒน์ แพทย์เฉพาะทางโรคต่อมไร้ท่อ, เบาหวาน, ไทรอยด์
ศูนย์การแพทย์ : ศูนย์อายุรกรรมเฉพาะทาง โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 1745 ต่อ

Go to top
Copyright © 2019 Bangpakok Hospital All rights reserved.